ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ประกันสังคมจะปรับเพดานค่าจ้างให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมขยับสูงตาม จากเดิมที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบที่ 750 บาทต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 875 บาทต่อเดือน แลกกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้น
ประกันสังคมอัปเกรด เพิ่มสิทธิประโยชน์ในทุกมิติ
นับตั้งแต่ที่ ครม.มีมติอนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ……..เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ก็ทำเอาบรรดาลูกจ้างตื่นเต้นไปตามๆ กัน เพราะการปรับเพดานค่าจ้างครั้งนี้ถือเป็นการปรับเพิ่มในรอบ 30 ปี จากเดิมที่กำหนดเพดานค่าจ้าง 15,000 บาท (ซึ่งใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน) เตรียมขยับขึ้นเป็น 17,500 บาท (ในช่วง 3 ปีแรก ตั้งแต่ปี 2569-2571) ตามมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศที่แนะให้ควรปรับเพดานค่าจ้างสูงกว่าค่าจ้างเฉลี่ยประมาณ 1.25 เท่า ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี เมื่อเพดานค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกันตนมาตรา 33 ก็ต้องเตรียมจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเดิมทีการจ่ายสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอยู่ที่ 750 บาทต่อเดือน จะขยับเป็น 875 บาทต่อเดือน แต่ก็แลกกับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นในทุกด้านเช่นเดียวกัน ทั้งกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ว่างงาน คลอดบุตร เงินบำนาญชราภาพ ฯลฯ เป็นต้น
เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ประกันสังคมปัจจุบัน VS แบบใหม่
| ค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ต่างๆ | ปัจจุบัน | ปี 2569-2571 | ปี 2572-2574 | ปี 2575 เป็นต้นไป |
| ค่าจ้าง | 15,000 | 17,500 | 20,000 | 23,000 |
| ลูกจ้างจ่ายสมทบ 5% | 750 | 875 | 1,000 | 1,150 |
| นายจ้างจ่ายสมบท 5% | 750 | 875 | 1,000 | 1,150 |
| รัฐบาลจ่ายสมทบ 2.75% | 413 | 481 | 550 | 633 |
| เจ็บป่วย | 7,500 | 8,750 | 10,000 | 11,500 |
| คลอดบุตร | 22,500 | 26,250 | 30,000 | 34,500 |
| ทุพพลภาพ | 7,500 | 8,750 | 10,000 | 11,500 |
| ว่างงาน | 7,500 | 8,750 | 10,000 | 11,500 |
| เสียชีวิต | 90,000 | 105,00 | 120,000 | 138,000 |
| บำนาญ ส่งเงิน 15 ปี | 3,000 | 3,500 | 4,000 | 4,600 |
| บำนาญ ส่งเงิน 25 ปี | 5,250 | 6,125 | 7,000 | 8,050 |
ประกันสังคมสูตรใหม่ จ่ายมาก ได้มาก
ทั้งนี้ ลูกจ้างจะถูกหักเงิน 5% ของค่าจ้างสำหรับการจ่ายสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน โดยนายจ้างจ่ายสมทบให้อีก 5% และรัฐบาลสมทบให้อีก 2.75% ซึ่งการปรับเพดานค่าจ้างจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ขยับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้
ระยะที่ 1 ปี 2569-2571 จะปรับเพดานค่าจ้างสูงสุด 17,500 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน โดยสิทธิประโยชน์เงินทดแทนและเงินบำนาญที่ได้รับเพิ่มขึ้น คือ
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท)
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 3,500 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 6,125 บาทต่อเดือน
ระยะที่ 2 ปี 2572-2574 จะมีการปรับเพดานค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน โดยสิทธิประโยชน์เงินทดแทนและเงินบำนาญที่ได้รับเพิ่มขึ้น คือ
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 4,000 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 7,000 บาทต่อเดือน
ระยะ 3 ปี 2575 เป็นต้นไป จะมีการปรับเพดานค่าจ้างสูงสุด 23,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน โดยสิทธิประโยชน์เงินทดแทนและเงินบำนาญที่ได้รับเพิ่มขึ้น คือ
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญ กรณีส่งเงินสมทบ 15 ปี 4,600 บาทต่อเดือน ส่วนกรณีส่งเงินสมทบ 25 ปี 8,050 บาทต่อเดือน
สำหรับการปรับเพดานค่าจ้างสูงสุดเป็น 17,500 บาท คาดว่าอาจจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2569 ส่วนสิทธิประโยชน์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิเต็มที่ก็ต่อเมื่อมีการจ่ายเงินสมทบในอัตราใหม่ครบ 3 เดือนนับตั้งแต่เพดานค่าจ้างใหม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งหากปรับเพดานค่าจ้างในเดือนมกราคม 2569 สิทธิที่ผู้ประกันตนจะได้รับคือเดือนเมษายน 2569 อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท จะยังคงส่งเงินสมทบเท่าเดิมหรือ 750 บาทต่อเดือน ซึ่งสิทธิที่จะได้รับก็จะยังคงเป็นของเดิม
เงินบำนาญชราภาพประกันสังคม ปรับใหม่เพิ่มความเป็นธรรม
ในส่วนของเงินบำนาญชราภาพประกันสังคมได้ปรับสูตรการคำนวณใหม่ที่เรียกว่าสูตร Care (ย่อมาจาก Career-Average Revalued Earnings) เป็นระบบคำนวณบำนาญที่นำค่าจ้างทุกเดือน ซึ่งผู้ประกันตนส่งเงินสมทบตลอดอายุการทำงานมาใช้คำนวณ โดยสูตร Care จะแตกต่างจากระบบเดิมที่เป็นการคำนวณจากค่าจ้างเฉลี่ยเพียง 60 เดือนสุดท้ายหรือ 5 ปีก่อนเกษียณ ทำให้ผู้ประกันตนบางรายที่มีรายได้ลดลงช่วงใกล้เกษียณอายุ เช่น ถูกลดเงินเดือนช่วงท้ายอายุงานหรือกรณีที่เปลี่ยนจากการเป็นลูกจ้างประจำมาตรา 33 เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 อาจทำให้เงินบำนาญชราภาพได้รับน้อยลง
นอกจากนี้ การคำนวณเงินบำนาญสูตรเดิมที่ใช้มานานกว่า 30 ปี จะไม่มีการนับเศษเดือน แต่จะนับจากรายปีเป็นหลัก เช่น ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมา 25 ปี 5 เดือน อัตราบำนาญจะคำนวณเพียง 25 ปีเท่านั้น ทำให้ต้องเสียสิทธิจากที่เงินส่งสมทบอีก 5 เดือน แต่สูตร CARE จะนำค่าจ้างทุกเดือนตลอดอายุการทำงานมาคำนวณ และจะปรับค่าเงินในอดีตให้เป็นมูลค่าปัจจุบันก่อนนำมาคำนวณ อีกทั้งยังปรับอัตราบำนาญเพิ่มขึ้นเป็น 1.5% ต่อปี ให้เป็น 0.125% ต่อเดือน ที่สมทบเกินกว่า 180 เดือน (หรือมากกว่า 15 ปี) ซึ่งทุกเดือนที่ส่งเงินสมทบจะถูกนำมาคิดเป็นเงินบำนาญด้วย ไม่ถูกตัดเศษเดือนทิ้งเหมือนแบบของเดิม ข้อดีของสูตร Care คือ ทำให้ทุกคนมีโอกาสได้บำนาญเพิ่มมากขึ้นตามที่จ่ายสมทบจริงทุกเดือนและจะไม่มีใครได้ลดลง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 (ที่เคยเป็นมาตรา 33 มาก่อน) ผู้ที่ได้ค่าจ้างลดลงในในช่วงใกล้เกษียณอายุ กลุ่มที่มีค่าจ้างสูง และผู้ประกันตนทั่วไปเนื่องจากเงินบำนาญจะสะท้อนค่าเงินจริงตามที่จ่ายสมทบ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมจะมีมติเห็นชอบแล้วตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 แต่ก็ยังต้องผ่านกระบวนการยกร่างกฎกระทรวงและการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งอาจไม่ทันมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2569
เงินบำนาญชราภาพประกันสังคม คือ เงินเลี้ยงชีพรายเดือนที่สำนักงานประกันสังคมจ่ายให้ผู้ประกันตนตลอดชีวิตเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ โดยมีเงื่อนไขคือ
- ผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ผู้ประกันตนลาออกหรือสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน (15 ปี)
ที่มา
ประกันสังคม (https://shorturl.asia/x20XL)
ประกันสังคม (https://shorturl.asia/Mk5Yf)





