ทำงานอย่างไรให้มีความสุข I Love My Job

ทุกวันนี้เราใช้เวลาไปกับการทำงานที่หนักขึ้นและยาวนานขึ้น เพราะคิดว่ามันจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิต ซึ่งคนทำงานยุคนี้หลายคนก็คงเข้าใจแบบนี้เหมือนกัน หลายคนเริ่มไม่มีความสุขกับการทำงาน เพราะต้องเอาเวลาที่ใช้กับคนในครอบครัวไปทุ่มให้กับงานแถมยังไม่เหลือเวลาให้พักผ่อนหย่อนใจอีกต่างหาก

  • เริ่มที่เป้าหมายที่แน่นอน ไม่ต้องไปตามใครแค่ตามที่ใจเราต้องการก็พอ
  • ตัดอะไรที่ไม่สำคัญและไม่มีผลกับเป้าหมายทิ้งไปบ้าง 
  • ไม่ต้องเร่งทำอะไรตลอดเวลาหรอก ผ่อนคลายบ้าง พักบ้าง แต่ถ้ายังไม่มีความสุขก็ลองหยุดดูสักพัก
  • ลองทำอะไรใหม่ ๆ เพื่อจะได้ก้าวออกมาจาก Comfort Zone

รู้เป้าหมายของเราก่อน

การทำอะไรตามคนอื่นไปเรื่อย ๆ ไม่มีความสุขหรอก เพราะถ้าเราเห็นคนอื่นมีอะไรใหม่ก็ต้องทำตามเขาไปตลอด ลองนั่งคุยกับตัวเองดูว่าจริง ๆ แล้วเป้าหมายในการทำงานของเราคืออะไร อยากที่จะไปให้สุดในสายงานนี้ไหม? หรือเราอยากทำงานอะไรที่เปลี่ยนโลกได้ การเห็นเป้าหมายปลายทางนี่แหละที่จะช่วยให้เรารู้จักตัวเองชัดขึ้นและมีความสุขได้ง่ายขึ้น

อะไรไม่สำคัญก็ตัดทิ้งไป

พอรู้เป้าหมายแล้ว เราจะเข้าใจได้ว่าอะไรบ้างไม่อยู่ในสิ่งที่ควรทำก็ตัดทิ้งไปจากชีวิต หลายครั้งมันแสดงออกมาในรูปแบบของความเฉื่อยชาในการทำงาน ความเซ็งที่ต้องทำเรื่องเดิมซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ถ้าความรู้สึกแบบนั้นเกิดขึ้นกับเราแล้ว  คงต้องหาทางแก้ไขอะไรบางอย่างแล้ว 

ไม่ต้องเร่งตลอด ผ่อนคลายบ้าง

หลายครั้งความทุกข์ก็ไม่ได้มาจากความผิดหวังอย่างเดียว มันมาจากความต้องการที่เมื่อได้สิ่งหนึ่งแล้วยังต้องวิ่งหาสิ่งต่อไปตลอด ถ้าอยากมีความสุขมากขึ้นต้องผ่อนคลายลงบ้าง ใช้ชีวิตให้ยืดหยุ่นกว่าเดิม ปล่อยคันเร่งแล้วพักสักนิด เราจะรู้สึกคลายกังวลและได้เห็นในมุมที่แตกต่างออกไป

แค่ผ่อนยังไม่พอ หยุดเลยแล้วกัน

ถ้าแค่การผ่อนชีวิตจากงานยังไม่ทำให้เรามีความสุขขึ้น บางครั้งการ “หยุด” ไปเลยสักพักน่าจะดีกว่า แทนที่เราจะเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มกับงานเพียงอย่างเดียว ลองอยู่เฉย ๆ บ้าง สนุกกับชีวิต แล้วไปทำเรื่องที่ตัวเองสนใจ แค่นี้ก็จะช่วยให้กลับมามีพลังและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นแล้ว

ลองสิ่งใหม่ ไม่ต้องติดกับ Comfort Zone

ถ้าลองหยุดแล้วยังไม่ดีขึ้นและการอยู่กับสิ่งเดิมซ้ำ ๆ ก็ทำให้เรามีแต่ความทุกข์ ลองมีความสุขกับสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตดูบ้าง ปกติคนเราจะชอบคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่หรือมีอยู่นั้นดีที่สุดแล้ว เพราะมันปลอดภัยกว่าการออกไปลองทำอะไรใหม่ แต่อย่าลืมนะว่าสมองของคนถูกสร้างมาเพื่อให้เรียนรู้เรื่องใหม่เสมอ

เข้าใจความรู้สึกคนอื่น

ทุกข้อที่ผ่านมาเป็นการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อตัวเอง จะดีกว่าไหม ถ้าเรามีความสุขแล้วคนรอบตัวเราจะมีความสุขไปพร้อมกันด้วย ลองกลับมามองคนใกล้ตัวและเข้าใจพวกเขามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือลูกน้อง การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้จะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นแถมยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ขอบคุณบทความดีจาก : 6-วิธีที่จะช่วยให้คนทำงานมีความสุขมากขึ้น

Recently Post

เงินค่าน้ำมันและค่าโทรศัพท์ เป็นค่าจ้างที่ต้องนำมาคำนวณในฐานค่าชดเชยไหม ?

เงินค่าน้ำมันและค่าโทรศัพท์ เป็นค่าจ้างที่ต้องนำมาคำนวณในฐานค่าชดเชยไหม ?

ยุคนี้ ไม่เพียงแต่เงินเดือนเท่านั้นที่จูงใจให้พนักงานอยากอยู่ต่อ แต่สวัสดิการดีๆ...

อ่านเพิ่มเติม